ในช่วงลดความอ้วนของใครหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคนเตือนเสมอว่า กินยาลดความอ้วน ระวังโยโย่นะ ลดแบบนี้โยโย่แน่ๆ มือใหม่ลดความอ้วนอาจจะงงว่าแล้วไอ้การลดความอ้วนแบบที่ทำอยู่มันจะทำให้เกิดอาการโยโย่ไหมนะ และจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดอาการการ โยโย่ เอฟเฟคแบบที่ใครหลายๆคนนั้นพูดถึงกัน
โยโย่ เอฟเฟค
อาการของ โยโย่ เอฟเฟคก็เหมือนกับลูกดิ่งโยโย่ที่ใช้เหวี่ยงขึ้นลงเพราะมันเป็นอาการของน้ำหนักตัวที่เหวี่ยงขึ้นลงแบบไม่ปรกติของร่างกาย บางคนบอกเป็นเพราะยาลดความอ้วนบางตัวที่ไปกดประสาทส่วนกลางระงับความอยากอาหารทำให้กินน้อยลง ทำให้เมื่อไม่ได้กินยาก็จะกลับมากินเยอะและตามาด้วยความอ้วน ซึ่งก็ถูกต้องส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้ว โย โย่เอฟเฟคไม่ได้จำกัดแค่การกินยาลดความอ้วนเท่านั้นแต่รวมถึงการรับประทานอาหารน้อย การอดอาหาร สิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกปัจจัยของการเกิดอาการโย โย่ เอฟเฟคด้วยเช่นกันและการเกิดโยโย่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าการลดความอ้วนของคุณที่ได้เหนื่อยอดอาหาร เหนื่อยทำมานั้นอาจจะไม่ถูกต้องและสมบูรณ์แบบซึ่งต้องมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกินอาหาร การเลือกชนิดอาหารกันใหม่ รวมถึงการออกกำลังกายด้วย
ทำไมการอดอาหารถึงทำให้เกิดอาการโย โย่หรือกลับมาอ้วนขึ้นล่ะ ถ้าเรากินน้อยไม่ช่วยทำให้ผอมหรือ ?
ถูกครับการกินน้อยจะทำให้ร่างกายของคุณและน้ำหนักของคุณลดลงอย่างรวดเร็ว แบบสูตรเร่งลัดต่างๆ แล้วมันไม่ดีอย่างไร ก็เพราะร่างกายของเราต้องพลังงานและสารอาหารต่อหนึ่งวันโดยประมาณก็ผู้ชายต้องการ 1,800 แคลอรี่ต่อวัน ผู้หญิงประมาณ 1, 600 แครอลี่ต่อวัน เมื่อไหร่ที่เราลดอาหารร่างกายจะเริ่มตอบสนองทันทีนั่นคือถ้าคุณกินอาหารต่อวันน้อยลงไปกว่าแคลอรี่ที่ต้องการ เช่นเหลือเพียง 800 แคลอรี่ โดยเฉพาะพวกการอดมื้อเช้าสุดแสนสำคัญ และการกินมื้อเย็นน้อยหรือไม่กินเลย ร่างกายจะทำการปรับให้มีการเผาผลาญพลังงานลดน้อยลง น้ำหนักคุณจะลดลงจริงแต่แน่นอนคุณไม่มีทางกินน้อยแบบนี้ไปทั้งชีวิตได้แน่และเมื่อไหร่ที่คุณเริ่มกลับมากินอาหารเท่าเดิมแบบก่อนตอนที่อดอาหาร ร่างกายระบบเผาผลาญที่ลดต่ำไปแล้วจะเริ่มเหวี่ยงกลับขึ้นมา ร่างกายจะไม่สามารถเผาพลาญพลังงานได้แบบเดิมส่งผลให้พลังงานที่เกินมาเก็บเป็นไขมันพลังงานสะสมที่เกินความต้องการส่งผลให้คุณมีน้ำหนักกระเด้งกลับไปเท่ากับตอนลดหรืออาจจะมากกว่าเดิม ซึ่งทำให้การลดความอ้วนล้มเหลวแถมยังสุขภาพไม่ดี ซึ่งจะเห็นแล้วว่าการอดอาหารน้อยลงนั้นไม่ส่งผลดีกับร่างกายของเราเลย และยังทำให้เกิดการโยโย่ เอฟเฟค แบบที่จะทำให้คุณเสียความรู้สึกและความตั้งใจ เราจึงควรเน้นกินอาหารให้พอดีกับที่ต้องการ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายวันละ 30-45นาที เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องอยู่แบบหิวๆอดๆอยากๆให้เสียสุขภาพกายและสุขภาพจิตแถมยังไม่โยโย่ เอฟเฟคอีกด้วย เมื่อรู้ความน่ากลัวของโยโย่ เอฟเฟคแล้วก็ทานกันให้พอดีอย่าอดจนเกินไปซึ่งอาจส่งผลเสียอย่างที่เราคาดไม่ถึง