ก่อนจะดึงหน้า ต้องรู้เรื่องนี้ ห้ามพลาด

ดึงหน้า

ก่อนจะดึงหน้า ต้องรู้เรื่องนี้ ห้ามพลาด

1. ข้อแรกที่เราควรรู้ถ้าเราอยากจะทําศัลยกรรมดึงหน้านั่นคือเราต้องรู้ว่าหมอทําเทคนิคอะไร เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้ามีเยอะมาก แต่ส่วนสําคัญที่เราต้องรู้คือว่ามีเทคนิคการดึงในชั้น SMAS หรือไม่ คําว่าชั้น SMAS คือชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ลึก ผิวหน้าของเราจะมี 5 ชั้น ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน ชั้น SMAS  ชั้นใต้ SMAS และชั้นกระดูก ชั้นที่สําคัญคือชั้น SMAS คือชั้นที่ 3 การผ่าตัดที่ชั้น SMAS  ข้อดีคือจะทําให้ผิวหน้ามันตึงแล้วก็อยู่ได้ระยะยาวมากขึ้น ที่สําคัญคือมันจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย ดังนั้นต้องถามหรือเราต้องรู้ว่าการ ผ่าตัดนั้นทําในชั้น SMAS หรือเปล่า ถ้าเกิดผ่าตัดแค่ผิวๆ ข้อดีคือมันผ่าตัดง่าย สะดวกรวดเร็ว แล้วก็ฉีดยาชาทํา แต่ข้อเสียของมันถ้าเราไม่ได้ผ่าตัดที่ SMAS ผลลัพธ์ที่ได้มันจะไม่ยาวนาน จะตกเร็ว แล้วก็ที่สําคัญคือมันจะดูไม่ธรรมชาติด้วย เพราะว่าเราดึงเฉพาะชั้นผิว แต่ว่าชั้นกล้ามเนื้อลึกเนี่ยมันยังหย่อนคล้อยอยู่ ดังนั้นข้อแรกสําคัญเลยดูว่าเทคนิคผ่าตัดคืออะไร แนําให้ต้องรู้ว่าผ่าตัดดึงหน้าในชั้น SMAS หรือไม่ เทคนิค SMAS จะได้ผลลัพธ์ยาวนานมากขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้น ดึงหน้า โรงพยาบาลเอเซีย ใช้เทคนิค SMAS

ดึงหน้า-โรงพยาบาลเอเซีย

2. ที่ควรรู้ก่อนทําศัลยกรรมความงาม โดยเฉพาะการดึงหน้า นั่นคือเทคนิคโดยรวม เทคนิคโดยรวม นอกจากชั้น SMAS แล้วเนี่ยเทคนิคโดยรวมเค้ามีคอนเซปต์อย่างไร คอนเซ็ปต์ที่สมัยใหม่ปัจจุบันเค้าเรียกว่า Modern Facelift  เทคนิคของโมเดิร์นเฟสลิปคือแผลเล็ก เจ็บน้อย หายเร็ว ที่สําคัญคือต้องเป็นธรรมชาติ การผ่าตัดดึงหน้าเนี่ยจริงๆ แล้วหมอสามารถดึงได้ ดึงให้ร่องแก้มหายทั้งหมดได้เลย ดึงให้มันตึงมากๆ ให้อายุลดลงเกิน 20 ปี ทางการแพทย์ทําได้แต่หมอไม่แนําให้ทํา เพราะว่าการทําดึงหน้าเนี่ยข้อสําคัญ คือความเป็นธรรมชาติ ถ้าเราดึงหน้าที่มันตึงเกินไป ผลเสียเนี่ยก็คือเวลาเรา แสดงสีหน้ามันจะแสดงสีหน้าไม่ออก มันจะตึงไปหมด ทางภาษาไทยเค้าเรียกเป็น MASK FACE คือเวลายิ้มก็ไม่มีร่องแก้ มันเลยแสดงสีหน้าไม่ได้ แล้วหน้าจะตึง บางคนทําตึงเกินไป หลับตาไม่สนิท อ้าปากลําบากอันนี้คือผลเสีย เพราะให้มันมากเกินไป ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของการดึงหน้า เราต้องดึงให้พอดี คือดูเป็นธรรมชาติ ดูอ่อนเยาว์ลง แต่ว่าร่องต่างๆน้อยลงแต่ไม่ได้หายไปหมด
เวลาแสดงสีหน้าต้องทําได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นอันนี้คือคอนเซปต์หลักของการดึงหน้าหรือว่าเทคนิคเรียกว่าโมเดิร์นเฟซลิฟต์

ดึงหน้า-โรงพยาบาลเอเซีย

3. สิ่งที่เราควรรู้ก่อนทําศัลยกรรมดึงหน้า คือเราต้องรู้ว่าเรากําลังจะทําการผ่าตัดในส่วนไหน อันนี้สําคัญมาก ในสมัยก่อนถ้าเราบอกว่าดึงหน้าเนี่ยศัลยแพทย์จะหมายถึงการดึงทั้งหน้าเลย การดึงหน้ารวมทั้งดึงคอด้วย พูดง่ายๆ คือรวมหมดเลย ทั้งหน้าทั้งคอเนี่ยดึงหมดเลย ซึ่งอันนั้นถ้าเราเข้าใจอย่างนั้นเนี่ยจริงๆ แล้วปัจจุบันไม่ต้องทําอย่างงั้นได้ ปัจจุบันเรามีเทคนิคใหม่ที่เรียกว่าเซ็กเมนต์เฟซ คือเราจะแบ่งการทําศัลยกรรมดึงหน้าเป็นส่วนๆได้ เพราะฉะนั้นเราไม่จําเป็นต้องดึงทุกส่วน เราสามารถเลือกเฉพาะส่วนที่เรามีปัญหาได้ ถ้าเรารวมหมดก็เรียกเป็น FULL FACELIFT เพราะฉะนั้นอันนี้สําคัญ ถ้าเกิดเราทําดึงหน้าทั้งหมดเลยดึงหน้าทั้ง 4 ส่วนเลย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหวังว่าผลลัพธ์ที่ได้เนี่ยมันต้องตึงหมดทุกส่วน ที่สําคัญคือระยะเวลาพักฟื้นต้องนานกว่า ต้องเผื่อเวลาในการพักฟื้นนานขึ้น แล้วก็อาจจะมีการบวมช้ําที่มากกว่าปกติได้ อันนี้เราต้องรู้ แต่ถ้าในเทคนิคปัจจุบันเรามาวิเคราะห์ปัญหากับหมอก่อนหมอจะแบ่งการดึงหน้าเป็น 4 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือหน้าผาก ส่วนที่สองคือบริเวณหางตาบริเวณหางคิ้วรอยตีนกานี่คือใบหน้าส่วนบน ส่วนที่3คือใบหน้าส่วนกลางกับใบหน้าส่วนล่าง และส่วนที่ 4 คือคอ ดังนั้นเมื่อเราแบ่งการดึงหน้าเป็น 4 ส่วน ข้อดีคือเราสามารถทําแยกส่วนได้ เพราะฉะนั้นเนี่ยมันจะตรงปัญหามากกว่า และเมื่อเราทําแยกส่วน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะตรงกับปัญหา แล้วก็การเจ็บการพักฟื้นก็จะน้อยลงด้วย เพราะเราไม่ต้องทําทั้งหมด อันนี้ก็สําคัญก็ต้องรู้ว่าเราทําส่วนไหน และที่สําคัญเราทําแยกส่วนได้ จะวิเคราะห์ดีๆเราอาจจะทําแยก เช่นบางคนอายุมากและแต่ว่าช่วงบนยังดีอยู่ แต่ว่าเริ่มมีร่องน้ำหมาก เริ่มมีร่องแก้ม อันนี้บอกว่าแนะนำดึงหน้าช่วงล่างอย่างเดียว บางคนเนี่ยใบหน้าตึงหมดแต่มีคอหย่อนเนื่องจากว่าลดน้ําหนักเยอะ อันนี้แนะนำดึงคออย่างเดียว เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราดึงได้ตรงปัญหาก็จะเป็นส่วนสําคัญที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดี